
เชื้อโรคในอากาศ คืออะไร? รู้ทันภัยเงียบที่ล่องลอยรอบตัวเรา
อากาศที่เราหายใจเข้าไปทุกวันอาจไม่บริสุทธิ์อย่างที่คิด เพราะนอกจากออกซิเจนที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตแล้ว อากาศยังเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคนานาชนิดที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า เชื้อโรคในอากาศ เหล่านี้ล่องลอยอยู่รอบตัวเราตลอดเวลา โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีคนหนาแน่น มีการระบายอากาศไม่ดี หรือในสถานที่ที่มีผู้ป่วย การเรียนรู้และเข้าใจเกี่ยวกับเชื้อโรคเหล่านี้จึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะช่วยให้เราป้องกันตัวเองและคนรอบข้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เชื้อโรคในอากาศคืออะไร?
หลายคนอาจเคยได้ยินเรื่องเชื้อโรคในอากาศมาบ้าง แต่ยังไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าคืออะไร และมีความเสี่ยงอย่างไรบ้าง ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจถึงนิยามและลักษณะการแพร่กระจายของเชื้อโรคเหล่านี้ก่อน
ความหมายของเชื้อโรคในอากาศ (Airborne Pathogens)
เชื้อโรคในอากาศ หรือที่เรียกในภาษาอังกฤษว่า Airborne Pathogens คือเชื้อจุลินทรีย์ก่อโรคที่สามารถแพร่กระจายและมีชีวิตอยู่ในอากาศได้ โดยมักจะติดมากับละอองฝอยขนาดเล็ก (Aerosols) หรืออนุภาคฝุ่นที่ลอยอยู่ในอากาศ ตามนิยามขององค์การอนามัยโลก (WHO) จุลินทรีย์เหล่านี้สามารถเดินทางในอากาศได้ในระยะไกลและแพร่กระจายไปยังผู้อื่นผ่านการหายใจ ไอ จาม หรือแม้แต่การพูดคุย ซึ่งต่างจากเชื้อโรคที่ติดต่อโดยการสัมผัสโดยตรงหรือผ่านการรับประทานอาหารและน้ำที่ปนเปื้อน
การแพร่กระจายของเชื้อโรคผ่านทางอากาศ
การแพร่กระจายของเชื้อโรคทางอากาศเกิดขึ้นได้หลายรูปแบบ แต่ที่พบบ่อยที่สุดคือการแพร่ผ่านละอองฝอยจากระบบทางเดินหายใจ เมื่อผู้ป่วยไอ จาม หรือพูดคุย ละอองฝอยที่มีเชื้อโรคจะถูกปล่อยออกมาและลอยอยู่ในอากาศ ซึ่งสามารถอยู่ในอากาศได้ตั้งแต่ไม่กี่นาทีไปจนถึงหลายชั่วโมงขึ้นอยู่กับชนิดของเชื้อ ขนาดของละอองฝอย และสภาพแวดล้อม เช่น ความชื้น อุณหภูมิ และการระบายอากาศ ทำให้ผู้ที่หายใจเอาอากาศที่มีเชื้อโรคเข้าไปมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อได้ โดยเฉพาะในพื้นที่ปิดที่มีคนหนาแน่น ตามข้อมูลของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) พบว่าความเสี่ยงในการติดเชื้อทางอากาศจะเพิ่มขึ้นหากอยู่ในพื้นที่ที่มีการระบายอากาศไม่ดีเป็นเวลานาน
เชื้อโรคในอากาศ มีอะไรบ้าง?
เมื่อพูดถึงเชื้อโรคในอากาศ มีอะไรบ้าง คำตอบคือมีหลากหลายประเภทมาก ตั้งแต่ไวรัส แบคทีเรีย ไปจนถึงเชื้อรา แต่ละประเภทก่อให้เกิดโรคที่แตกต่างกันและมีความรุนแรงที่แตกต่างกันด้วย
ไวรัสที่แพร่ในอากาศ
ไวรัสเป็นเชื้อโรคในอากาศที่พบได้บ่อยและแพร่กระจายได้รวดเร็ว ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนคือ ไวรัสไข้หวัดใหญ่ (Influenza) ที่มีการระบาดเป็นประจำทุกปี และในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โลกได้เผชิญกับการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (SARS-CoV-2) ที่ก่อให้เกิดโรค COVID-19 ซึ่งแพร่กระจายทางอากาศได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังมีไวรัสอื่นๆ เช่น ไวรัสหัด (Measles Virus) ไวรัสอีสุกอีใส (Varicella-Zoster Virus) และไวรัส RSV (Respiratory Syncytial Virus) ที่สามารถแพร่กระจายทางอากาศได้เช่นกัน โรคที่เกิดจากไวรัสเหล่านี้มักจะมีการระบาดเป็นระลอกและส่งผลกระทบต่อประชากรจำนวนมาก
แบคทีเรียในอากาศ
นอกจากไวรัสแล้ว แบคทีเรียบางชนิดก็สามารถแพร่กระจายทางอากาศได้เช่นกัน เช่น เชื้อ Mycobacterium tuberculosis ที่ก่อให้เกิดวัณโรค (Tuberculosis) ซึ่งเป็นโรคติดต่อทางอากาศที่ยังคงเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญในหลายประเทศ รวมถึงไทย นอกจากนี้ยังมีแบคทีเรีย Streptococcus pneumoniae ที่ก่อให้เกิดโรคปอดบวม (Pneumonia) และ Legionella pneumophila ที่ก่อให้เกิดโรคลีเจียนแนร์ (Legionnaires’ disease) แบคทีเรียเหล่านี้สามารถมีชีวิตอยู่ในอากาศได้นานและแพร่กระจายเมื่อคนหายใจเอาละอองฝอยที่มีเชื้อเข้าไป
เชื้อราทางอากาศ
เชื้อราเป็นอีกหนึ่งประเภทของเชื้อโรคที่สามารถแพร่กระจายทางอากาศได้ โดยเฉพาะสปอร์ของเชื้อราที่มีขนาดเล็กและเบา ทำให้ลอยอยู่ในอากาศได้นาน ตัวอย่างเช่น เชื้อรา Aspergillus ที่สามารถก่อให้เกิดโรคปอดอักเสบในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือเชื้อรา Histoplasma capsulatum ที่ก่อให้เกิดโรค Histoplasmosis ตามข้อมูลของสมาคมโรคภูมิแพ้ โรคหืด และภูมิคุ้มกันวิทยาแห่งประเทศไทย สปอร์ของเชื้อราเหล่านี้สามารถพบได้ทั่วไปในสิ่งแวดล้อม เช่น ในดิน ใบไม้ที่เน่าเปื่อย หรือในอาคารที่มีความชื้นสูง

การป้องกันเชื้อโรค พฤติกรรมพื้นฐานที่ควรทำเป็นนิสัย
โรคที่เกิดจากเชื้อโรคในอากาศ
เชื้อโรคในอากาศสามารถก่อให้เกิดโรคหลากหลายชนิด โดยส่วนใหญ่มักจะเป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจ ความรุนแรงของโรคจะแตกต่างกันไปตั้งแต่อาการเล็กน้อยไปจนถึงรุนแรงถึงชีวิต
โรคทางเดินหายใจที่พบบ่อย
โรคทางเดินหายใจที่มีสาเหตุจากเชื้อโรคในอากาศที่พบบ่อย ได้แก่ ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ โรคปอดอักเสบ และหลอดลมอักเสบ ซึ่งสามารถเกิดได้จากทั้งไวรัสและแบคทีเรีย โรคเหล่านี้มักจะมีอาการเริ่มต้นคล้ายกัน เช่น ไข้ ไอ เจ็บคอ น้ำมูกไหล และอ่อนเพลีย แต่อาการอาจรุนแรงขึ้นได้ในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีโรคประจำตัว โรคทางเดินหายใจเหล่านี้เป็นสาเหตุสำคัญของการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลในประเทศไทย
โรคระบาดครั้งใหญ่ที่เกิดจากเชื้อโรคในอากาศ
ประวัติศาสตร์ได้บันทึกการระบาดของโรคที่เกิดจากเชื้อในอากาศหลายครั้ง เช่น การระบาดของโรคหัด วัณโรค และล่าสุดคือการระบาดของโรค COVID-19 ที่แพร่กระจายไปทั่วโลกในช่วงปี 2019 จนถึงปัจจุบันก็ยังมีการแพร่ร ซึ่งส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อระบบสาธารณสุขและเศรษฐกิจทั่วโลก ตามรายงานขององค์การอนามัยโลก โรคระบาดเหล่านี้สามารถก่อให้เกิดผลกระทบที่รุนแรงเนื่องจากความสามารถในการแพร่กระจายอย่างรวดเร็วผ่านทางอากาศ
ปัจจัยเสี่ยงในการติดเชื้อจากอากาศ
มีหลายปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อจากอากาศ ซึ่งเราควรตระหนักและหลีกเลี่ยงเพื่อลดโอกาสในการติดเชื้อ
สภาพแวดล้อมและพื้นที่ปิด
พื้นที่ปิดที่มีคนหนาแน่น เช่น ห้างสรรพสินค้า โรงภาพยนตร์ ขนส่งสาธารณะ และสำนักงาน เป็นแหล่งที่มีความเสี่ยงสูงในการแพร่กระจายของเชื้อโรคทางอากาศ เนื่องจากมีคนจำนวนมากอยู่ในพื้นที่จำกัด ทำให้การแพร่เชื้อเกิดขึ้นได้ง่าย โดยเฉพาะในช่วงที่มีการระบาดของโรคทางเดินหายใจ ตามคำแนะนำของกรมอนามัย ควรหลีกเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่แออัดเป็นเวลานานในช่วงที่มีการระบาดของโรค
การระบายอากาศไม่ดี
ระบบการระบายอากาศที่ไม่ดี หรือการหมุนเวียนของอากาศไม่เพียงพอเป็นอีกปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ ในอาคารที่มีการปิดสนิทและใช้เครื่องปรับอากาศตลอดเวลาโดยไม่มีการนำอากาศบริสุทธิ์จากภายนอกเข้ามา เชื้อโรคสามารถสะสมและแพร่กระจายได้ง่าย ตามมาตรฐานคุณภาพอากาศในอาคารขององค์การอนามัยโลก การมีระบบระบายอากาศที่ดีสามารถลดความเสี่ยงในการติดเชื้อทางอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ
พฤติกรรมเสี่ยงในชีวิตประจำวัน
พฤติกรรมบางอย่างในชีวิตประจำวันอาจเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อจากอากาศ เช่น การไม่ล้างมือบ่อยๆ การไม่สวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะช่วงที่มีการระบาดของโรค หรือการสัมผัสใบหน้าบ่อยๆ นอกจากนี้ การมีสุขภาพไม่แข็งแรง การพักผ่อนไม่เพียงพอ ความเครียด หรือการมีโรคประจำตัว ก็เป็นปัจจัยที่ทำให้มีความเสี่ยงสูงขึ้นในการติดเชื้อ
วิธีป้องกันเชื้อโรคในอากาศ
การป้องกันตัวเองจากเชื้อโรคในอากาศเป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถทำได้ในชีวิตประจำวัน ด้วยวิธีง่ายๆ หลายวิธี
การสวมหน้ากากอนามัยในที่แออัดหรือในช่วงที่มีการระบาดของโรคเป็นวิธีที่ได้ผลดีในการลดความเสี่ยง โดยเฉพาะหน้ากากที่มีประสิทธิภาพในการกรอง การเปิดหน้าต่างและเพิ่มการถ่ายเทอากาศในบ้านหรืออาคารก็เป็นอีกวิธีที่ช่วยลดความเข้มข้นของเชื้อโรคในอากาศได้
นอกจากนี้ การใช้เครื่องฆ่าเชื้อโรคในอากาศ เช่น เครื่อง Wellis Air ที่มีเทคโนโลยีการฆ่าเชื้อด้วยประจุ Hydroxyl ก็เป็นอีกทางเลือกที่มีประสิทธิภาพ เครื่องนี้สามารถกำจัดเชื้อโรคได้ทั้งในอากาศและบนพื้นผิวต่างๆ โดยมีผลทดสอบจากห้องปฏิบัติการว่าสามารถฆ่าเชื้อไวรัสหลายชนิด รวมถึง COVID-19, RSV, Rotavirus, ไข้หวัดใหญ่ทุกสายพันธุ์, SARS, MERS, เชื้อที่ทำให้เกิดโรคมือเท้าปากเปื่อย และเชื้อโรคอื่นๆ ที่สำคัญคือปลอดภัยต่อมนุษย์และสัตว์เลี้ยง ทำให้สามารถใช้ได้ตลอด 24 ชั่วโมงแม้จะมีคนอยู่ในห้อง
สรุปบทความ
เชื้อโรคในอากาศเป็นภัยเงียบที่เราไม่ควรมองข้าม การเข้าใจว่าเชื้อโรคในอากาศ มีอะไรบ้าง ทั้งไวรัส แบคทีเรีย และเชื้อรา จะช่วยให้เราตระหนักถึงความสำคัญของการป้องกันตัวเอง การรักษาสุขอนามัยที่ดี การอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มีการระบายอากาศดี และการใช้อุปกรณ์ช่วยฆ่าเชื้อโรคในอากาศ อย่างเครื่อง Wellis Air ล้วนเป็นวิธีที่ช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การป้องกันตัวเองและคนรอบข้างจากเชื้อโรคในอากาศไม่ใช่เรื่องยาก หากเรามีความเข้าใจและนำความรู้ไปปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสุขภาพที่ดีของตัวเองและคนที่เรารัก
ติดต่อรับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญหรือเลือกซื้อ Wellis Air ได้แล้ววันนี้
Line OA: @wellisthailand
Facebook: Wellis Thailand Official
Messenger: Wellis Thailand Official
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ: 081-559-8555