
สูดโอโซนอันตรายจริงหรือไม่?
ปัจจุบันเราใช้เทคโนโลยีหลากหลายรูปแบบเพื่อช่วยฆ่าเชื้อโรคและทำความสะอาดอากาศในบ้านและที่ทำงาน แต่บางเทคโนโลยีอาจนำมาซึ่งความเสี่ยงที่มองไม่เห็น โดยเฉพาะเครื่องฟอกอากาศโอโซนอันตรายที่มักมากับคำกล่าวโฆษณาว่าสามารถกำจัดกลิ่นและเชื้อโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ความจริงแล้วการสูดโอโซนอันตรายมากกว่าที่คิดและเป็นประเด็นสำคัญที่ผู้บริโภคควรตระหนักถึง เช่นเดียวกับอันตรายจากแสง UVC ที่หากใช้ไม่ถูกวิธีอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ บทความนี้จะแนะนำให้คุณเข้าใจถึงความเสี่ยงเหล่านี้และวิธีเลือกเครื่องฟอกอากาศฆ่าเชื้อที่ปลอดภัยสำหรับครอบครัว
ทำความรู้จักโอโซน
ก่อนที่เราจะเข้าใจว่าทำไมการสูดโอโซนถึงเป็นอันตราย เราควรทำความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับโอโซนก่อน เพราะโอโซนมีทั้งด้านที่เป็นประโยชน์และโทษต่อมนุษย์
โอโซนคืออะไร และมีประโยชน์อย่างไรในชั้นบรรยากาศ
โอโซนคือโมเลกุลที่ประกอบด้วยออกซิเจน 3 อะตอม (O₃) ซึ่งพบได้ตามธรรมชาติในชั้นบรรยากาศของโลก โดยเฉพาะในชั้นสตราโตสเฟียร์ที่สูงจากพื้นดินประมาณ 10-50 กิโลเมตร โอโซนชั้นนี้มีหน้าที่สำคัญคือปกป้องโลกจากรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) ที่เป็นอันตรายจากดวงอาทิตย์ ชั้นโอโซนในบรรยากาศจึงเปรียบเสมือนโล่กำบังที่ช่วยปกป้องสิ่งมีชีวิตบนโลก ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมสถานพยาบาลต่างๆ จึงให้ความสำคัญกับการเลือกเครื่องฟอกอากาศในโรงพยาบาลที่ปลอดภัยและไม่ผลิตโอโซนในระดับที่เป็นอันตราย
โอโซนชั้นบรรยากาศ (Good Ozone) และโอโซนระดับพื้นดิน (Bad Ozone)
มีความแตกต่างสำคัญระหว่างโอโซนในชั้นบรรยากาศที่เป็นประโยชน์ (Good Ozone) และโอโซนระดับพื้นดินที่เป็นอันตราย (Bad Ozone) โอโซนระดับพื้นดินเกิดจากปฏิกิริยาเคมีระหว่างมลพิษจากยานพาหนะ โรงงานอุตสาหกรรม และสารระเหยอื่นๆ เมื่อสัมผัสกับแสงแดด
โอโซนระดับพื้นดินเป็นมลพิษทางอากาศที่สำคัญและเป็นองค์ประกอบหลักของหมอกควันพิษ (Smog) องค์การพิทักษ์สิ่งแวดล้อมสหรัฐฯ (EPA) และองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้จัดให้โอโซนระดับพื้นดินเป็นมลพิษทางอากาศที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพมนุษย์ โดยเฉพาะเมื่อมีความเข้มข้นสูง การสูดโอโซนอันตรายเป็นอย่างมากแม้เข้าไปในปริมาณน้อยก็สามารถทำให้เยื่อบุทางเดินหายใจเกิดการระคายเคืองได้
ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับโอโซนและอากาศบริสุทธิ์
มีความเข้าใจผิดอย่างแพร่หลายว่าโอโซนสามารถ “ฟอกอากาศ” หรือทำให้อากาศ “บริสุทธิ์” ได้ ความเข้าใจผิดนี้ทำให้มีการขายเครื่องกำเนิดโอโซนเพื่อฆ่าเชื้อโรคและขจัดกลิ่นเครื่องทําโอโซนมักถูกโฆษณาว่าให้ “กลิ่นสดชื่นเหมือนหลังฝนตก” แต่ความจริงแล้วกลิ่นนี้คือโอโซนที่เป็นพิษต่อระบบทางเดินหายใจ เป็นหนึ่งในอันตรายของเครื่องฟอกอากาศที่ควรระวัง องค์การวิชาการที่น่าเชื่อถือทั่วโลก เตือนถึงอันตรายของการใช้เครื่องกำเนิดโอโซนในพื้นที่ที่มีคนอาศัยอยู่ แม้แต่ในระดับต่ำกว่าค่ามาตรฐานที่กำหนดโดย EPA คือ 0.05 ppm ก็ยังสามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้

อันตรายจากการสูดโอโซนและผลกระทบต่อสุขภาพ
เมื่อเราเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับโอโซนแล้ว มาดูกันว่าทำไมการสูดโอโซนอันตรายและส่งผลกระทบต่อสุขภาพของเราอย่างไรบ้าง
ความเสี่ยงระยะสั้นจากการสูดโอโซน
การสูดโอโซนแม้ในระดับต่ำสามารถก่อให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ได้ภายในเวลาเพียงไม่กี่นาที ถึงชั่วโมง อาการที่พบบ่อย ได้แก่ แสบคอ ระคายเคืองตา จมูก ปวดศีรษะ หายใจลำบาก แน่นหน้าอก ไอ และอาจทำให้โรคหอบหืดกำเริบหากมีอาการอยู่ก่อนแล้ว การศึกษาหลายชิ้นจากสถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐฯ พบว่า การได้รับโอโซนในปริมาณแม้เพียงเล็กน้อยยังสามารถกระตุ้นการอักเสบในปอดได้
ผลกระทบระยะยาว
การสูดโอโซนอันตรายในระยะยาวยิ่งมีความเสี่ยงมากขึ้น การศึกษาทางระบาดวิทยาพบความสัมพันธ์ระหว่างการได้รับโอโซนกับความเสี่ยงในการเกิดโรคระบบทางเดินหายใจเรื้อรัง โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) กระตุ้นการอักเสบในระบบทางเดินหายใจ ซึ่งอาจคล้ายอาการของโรคภูมิแพ้และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตจากโรคทางเดินหายใจ นอกจากนี้ยังอาจลดสมรรถภาพการทำงานของปอดอย่างถาวรและเร่งการเสื่อมของปอดเมื่ออายุมากขึ้น
กลุ่มเสี่ยงที่ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสโอโซน
มีบางกลุ่มคนที่มีความไวต่อผลกระทบของโอโซนมากกว่าผู้อื่น ได้แก่
- เด็กเล็ก เนื่องจากปอดยังพัฒนาไม่เต็มที่และหายใจเร็วกว่าผู้ใหญ่
- ผู้สูงอายุที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ
- ผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ เช่น หอบหืด ภูมิแพ้ หรือ COPD
- ผู้ที่ทำงานหรือออกกำลังกายกลางแจ้งเป็นเวลานาน เพราะจะสูดอากาศเข้าปอดมากกว่าคนทั่วไป
Wellis Air เครื่องฆ่าเชื้อโรคที่ปลอดภัยกว่าโอโซน
เมื่อทราบถึงอันตรายของโอโซนและ UVC แล้ว จะเห็นว่าการเลือกใช้เทคโนโลยีฆ่าเชื้อที่ปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญ หนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจคือ Wellis Air เครื่องฆ่าเชื้อโรคที่ใช้เทคโนโลยีประจุไฮดรอกซิล (OH-) ซึ่งเป็นวิธีการเดียวกับที่ธรรมชาติใช้ในการกำจัดเชื้อโรคและสารพิษในบรรยากาศ
เครื่องฆ่าเชื้อโรคในอากาศ ประเภทนี้มีความแตกต่างจากเครื่องกำเนิดโอโซนอย่างชัดเจน เพราะไม่ผลิตโอโซน ไม่มีอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจ และปลอดภัยต่อมนุษย์และสัตว์เลี้ยง สามารถใช้งานได้ตลอด 24 ชั่วโมงแม้ในขณะที่มีคนอยู่ในห้อง ซึ่งแตกต่างจากเครื่องกำเนิดโอโซนที่ใช้ได้เฉพาะเมื่อไม่มีคนอยู่ในห้องเท่านั้น
ไฮดรอกซิลสามารถฆ่าเชื้อโรคในอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงเชื้อไวรัส COVID-19, RSV, Rotavirus, เชื้อที่ทำให้เกิดโรคมือเท้าปากเปื่อย, SARS, MERS และเชื้อโรคอื่นๆ อีกทั้งยังได้รับการรับรองความปลอดภัยจากองค์กรระดับโลกหลายแห่ง เช่น องค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ (US FDA), มาตรฐานความปลอดภัยของสหภาพยุโรป (CE Certificate) รวมถึงการรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก. 60335 เล่ม 2(65)-2564) ของประเทศไทย โดยมีผลการทดสอบยืนยันประสิทธิภาพในการกำจัดเชื้อ COVID-19 จาก MRI Global และเชื้อโรคอื่นๆ จากสถาบันวิจัยชั้นนำหลายแห่ง
สรุปบทความ
การหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากสูดโอโซนอันตราย และอันตรายจากแสง UVC คือปัจจัยสำคัญในการเลือกเทคโนโลยีฆ่าเชื้อโรคสำหรับบ้านและสำนักงาน โอโซนแม้จะมีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อ แต่ก็เป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจและสุขภาพโดยรวม เช่นเดียวกับแสง UVC ที่อาจเป็นอันตรายหากใช้อย่างไม่ถูกวิธี
ไม่ต้องกังวลว่าหลังจากนี้ควรจะเลือกเครื่องฟอกอากาศยี่ห้อไหนดี เพราะ Wellis Air นำเสนอเทคโนโลยีทางเลือกที่ปลอดภัยด้วยระบบไฮดรอกซิลที่ไม่ปล่อยทั้งโอโซนและไม่ใช้รังสี UV ในการฆ่าเชื้อ จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการวิธีกำจัดเชื้อโรคประสิทธิภาพสูงโดยไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัย สิ่งสำคัญคือการเลือกผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองจากองค์กรที่น่าเชื่อถือและเข้าใจข้อดีข้อเสียของแต่ละเทคโนโลยี ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถปกป้องสุขภาพของคนที่คุณรักได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยในระยะยาว โดยไม่ต้องเสี่ยงกับผลข้างเคียงจาก สูดโอโซนอันตราย หรือUVC อันตรายที่อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพในภายหลัง
ติดต่อรับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญหรือเลือกซื้อ Wellis Air ได้แล้ววันนี้
Line OA: @wellisthailand
Facebook: Wellis Thailand Official
Messenger: Wellis Thailand Official
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ: 081-559-8555