อันตรายจากแสง UVC ที่คุณควรรู้ ความเสี่ยงและทางเลือกที่ปลอดภัย

อันตรายจากเครื่องฟอกอากาศ UVC ที่คุณควรรู้

การแพร่ระบาดของเชื้อโรคและไวรัสต่างๆ ทำให้หลายคนหันมาสนใจเครื่องฟอกอากาศและเครื่องฆ่าเชื้อโรคมากขึ้น โดยเฉพาะเทคโนโลยี UVC ที่ถูกโฆษณาว่าสามารถฆ่าเชื้อโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่คุณเคยรู้หรือไม่ว่า อันตรายจาก UVC นั้นมีมากกว่าที่คิด เป็นหนึ่งในอันตรายของเครื่องฟอกอากาศ ที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพของคุณและคนที่คุณรักได้ บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับความเสี่ยงและอันตรายจากแสง UVC ที่ควรระวัง พร้อมแนะนำทางเลือกที่ปลอดภัยกว่าสำหรับการฆ่าเชื้อโรคในบ้านของคุณ

แสง UVC คืออะไร? หลักการทำงานที่ควรทราบ

แสง UVC (Ultraviolet C)เป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีความยาวคลื่นสั้นมากอยู่ในช่วง 100-280 นาโนเมตร โดยธรรมชาติแล้ว รังสี UVC จากดวงอาทิตย์จะถูกดูดซับโดยชั้นโอโซนในบรรยากาศ ทำให้ไม่สามารถแผ่มาถึงผิวโลก ซึ่งเป็นการปกป้องสิ่งมีชีวิตจากรังสีที่เป็นอันตรายนี้

เทคโนโลยี UVC ถูกนำมาใช้ในเป็นเครื่องฟอกอากาศฆ่าเชื้อโรค โดยอาศัยหลักการที่ว่ารังสี UVC สามารถทำลาย DNA และ RNA ของเชื้อโรค ทำให้เชื้อไม่สามารถแบ่งตัวและเพิ่มจำนวนได้ แต่ประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อของแสง UVC นั้นขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการสัมผัสและความเข้มของแสง ซึ่งต้องอยู่ในระดับที่พอเหมาะจึงจะสามารถฆ่าเชื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อันตรายจากแสง UVC ที่ส่งผลต่อสุขภาพ

แม้ว่าเทคโนโลยี UVC จะมีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อโรค แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงต่อสุขภาพที่ไม่ควรมองข้าม องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ออกมาเตือนถึงอันตรายจาก UVC ที่มีต่อผิวหนังและดวงตาของมนุษย์ เมื่อสัมผัสโดยตรง รังสี UVC สามารถก่อให้เกิดการไหม้ของผิวหนัง (UV Burns) ซึ่งมีอาการแดง ปวด และบวม รวมถึงทำให้เกิดการอักเสบของเยื่อบุตา (Photokeratitis) ที่ทำให้รู้สึกเจ็บตาคล้ายมีทรายในตา น้ำตาไหล และกลัวแสง

ที่น่ากังวลไปกว่านั้น การสัมผัสกับรังสี UVC เป็นระยะเวลานานหรือซ้ำๆ อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งผิวหนัง และต้อกระจก ตามข้อมูลจากองค์การวิจัยมะเร็งนานาชาติ (IARC) นอกจากนี้ เครื่องฟอกอากาศที่ใช้แสง UVC บางรุ่นยังสามารถผลิตโอโซนได้อีกด้วย ซึ่งเครื่องฟอกอากาศโอโซนเป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจ โดยอาจก่อให้เกิดอาการไอ แน่นหน้าอก และระคายเคืองทางเดินหายใจ โดยเฉพาะในผู้ที่มีโรคหอบหืดหรือปัญหาทางเดินหายใจอยู่แล้ว

อันตรายจากแสง UVC

กลุ่มเสี่ยงที่ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสแสง UVC

ถึงแม้ว่าทุกคนควรระวังอันตรายจากแสง UVC แต่มีบางกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงเป็นพิเศษ ดังนี้

ทารก เด็ก และผู้สูงอายุ

แม้ว่ารังสี UVC จะเป็นอันตรายต่อมนุษย์และสิ่งมีชีวิตทุกชนิดที่สัมผัสโดยตรง แต่ ทารก เด็ก และผู้สูงอายุ เป็นกลุ่มที่มีความเปราะบางมากที่สุด ด้วยกลุ่มทารก และ เด็กมีผิวหนังที่บางกว่าและไวต่อการระคายเคืองมากกว่าผู้ใหญ่ ระบบภูมิคุ้มกันที่ยังพัฒนาไม่เต็มที่ทำให้ร่างกายตอบสนองต่อการบาดเจ็บได้ไม่ดีเท่าที่ควร ในขณะที่ผู้สูงอายุมักมีภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอลงตามวัย ทำให้การฟื้นตัวจากความเสียหายที่เกิดจากรังสี UV เป็นไปได้ช้ากว่า อีกทั้งยังเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงกว่า ดังนั้น การใช้เครื่องฟอกอากาศ UVC ในห้องที่มีเด็ก ทารก หรือผู้สูงอายุอยู่จึงไม่ใช่ทางเลือกที่เหมาะสมอย่างยิ่ง

ผู้ที่มีโรคผิวหนังหรือภูมิแพ้แสง

ผู้ที่เป็นโรคผิวหนังอย่างผู้สูงอายุ เช่น โรคผิวหนังผู้สูงอายุ โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (Atopic Dermatitis) หรือมีภาวะภูมิแพ้แสง (Photosensitivity) อาจมีอาการรุนแรงขึ้นเมื่อสัมผัสกับรังสี UVC แม้เพียงเล็กน้อย ผู้ป่วยที่รับประทานยาบางชนิด เช่น ยาปฏิชีวนะกลุ่ม Tetracycline หรือยารักษาสิว Isotretinoin ก็อาจมีความไวต่อแสงเพิ่มขึ้นด้วย

ผู้มีปัญหาระบบทางเดินหายใจ

สำหรับผู้ที่มีโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ เช่น หอบหืด ถุงลมโป่งพอง หรือมีอาการของโรคภูมิแพ้ การสัมผัสกับโอโซนที่เกิดจากเครื่อง UVC บางรุ่นอาจทำให้อาการกำเริบและเป็นอันตรายได้ สิ่งที่หลายคนอาจไม่ทราบคือ หลอดไฟ UVC ที่ใช้ในเครื่องฟอกอากาศนั้นสามารถผลิตโอโซนได้โดยตรง เมื่อรังสี UVC ที่มีความยาวคลื่นต่ำกว่า 240 นาโนเมตรกระทบกับออกซิเจนในอากาศ จะเกิดปฏิกิริยาที่แตกตัวออกซิเจนและรวมตัวกันใหม่เป็นโอโซน (O₃) ซึ่งแม้จะมีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อโรค แต่ก็เป็นมลพิษทางอากาศที่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ สถาบัน American Lung Association ได้เตือนว่าโอโซนแม้ในปริมาณเพียงเล็กน้อยก็สามารถกระตุ้นให้เกิดการอักเสบของปอดและทางเดินหายใจได้ ทำให้เกิดอาการไอ แน่นหน้าอก หายใจลำบาก และอาจนำไปสู่การเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลในกรณีที่รุนแรง

ทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า เทคโนโลยีฆ่าเชื้อทางเลือกอื่น

ด้วยความเสี่ยงและอันตรายจาก UVC ที่กล่าวมาข้างต้น จึงทำให้ UVC อันตรายสำหรับการใช้ในที่พักอาศัยทั่วไป โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีคนอยู่ตลอดเวลา แต่ไม่ต้องกังวล เพราะปัจจุบันมีเทคโนโลยีทางเลือกอื่นที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อโรคไม่แพ้กัน

หนึ่งในทางเลือกที่น่าสนใจคือเทคโนโลยีประจุไฮดรอกซิล (Hydroxyl) ซึ่งเป็นวิธีที่ธรรมชาติใช้ในการทำความสะอาดชั้นบรรยากาศ ไฮดรอกซิลสามารถทำลายเชื้อโรคได้ทั้งในอากาศและบนพื้นผิวต่างๆ โดยไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์และสัตว์เลี้ยง

เครื่องฆ่าเชื้อโรค Wellis Air เป็นตัวอย่างของเทคโนโลยีที่ใช้ประจุไฮดรอกซิลในการฆ่าเชื้อ ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (US FDA) ว่ามีความปลอดภัยต่อมนุษย์และสัตว์เลี้ยง รวมถึงการรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก. 60335 เล่ม 2(65)-2564) ของประเทศไทย สามารถใช้ได้แม้ในห้องที่มีเด็กอ่อนและผู้ป่วย และมีประสิทธิภาพในการกำจัดเชื้อไวรัสหลายชนิด รวมถึง COVID-19, SARS, MERS, RSV, Rotavirus และเชื้อโรคอื่นๆ

สรุปบทความ

อันตรายจากแสง UVC เป็นเรื่องที่ต้องตระหนักอย่างจริงจัง โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาถึงผลกระทบต่อผิวหนัง ดวงตา และระบบทางเดินหายใจ รวมถึงความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งในระยะยาว แม้ว่าเทคโนโลยี UVC จะมีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อ แต่ข้อจำกัดด้านความปลอดภัยทำให้ไม่เหมาะสำหรับการใช้ในที่พักอาศัยทั่วไป โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ

ที่สำคัญ ในหลายประเทศรวมถึงสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรป มีกฎหมายและข้อบังคับที่เข้มงวดเกี่ยวกับการใช้อุปกรณ์ UVC ในพื้นที่สาธารณะ โดยระบุว่าเครื่อง UVC ต้องได้รับการติดตั้งและควบคุมโดยผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น ไม่สามารถให้บุคคลทั่วไปเปิดปิดเองได้ตามใจชอบ และต้องมีระบบความปลอดภัยที่ซับซ้อนเพื่อป้องกันการสัมผัสโดยไม่ตั้งใจ ซึ่งเป็นข้อจำกัดสำคัญสำหรับการใช้งานในบ้านเรือนทั่วไป

การเลือกใช้เทคโนโลยีทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า เช่น เทคโนโลยีประจุไฮดรอกซิล จึงเป็นทางเลือกที่ฉลาดกว่าสำหรับการปกป้องตนเองและคนที่คุณรักจากเชื้อโรคต่างๆ พร้อมทั้งหลีกเลี่ยงอันตรายจาก UVC ที่อาจเกิดขึ้นได้ การลงทุนในเครื่องฆ่าเชื้อในอากาศที่ปลอดภัยและได้มาตรฐานจึงเป็นการลงทุนเพื่อสุขภาพที่ดีในระยะยาว

Line OA: @wellisthailand

Facebook: Wellis Thailand Official 

Messenger: Wellis Thailand Official 

ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ: 081-559-8555

Leave a Reply

LINE

แชทกับผู้เชี่ยวชาญ

081-559-8555

ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ

Messenger

แชทกับผู้เชี่ยวชาญ

line