
VOCs คืออะไร? ทำความรู้จักสารอินทรีย์ระเหยง่ายที่คุณหายใจอยู่ทุกวัน
เมื่อพูดถึงเรื่องมลพิษทางอากาศ หลายคนอาจนึกถึงควันรถยนต์ ฝุ่น PM2.5 หรือควันจากโรงงาน แต่น้อยคนที่จะนึกถึงสารพิษที่อยู่รอบตัวเราในบ้านและอาคาร ซึ่งหนึ่งในนั้นคือสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า VOCs นั่นเอง สารกลุ่มนี้แม้จะมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า เป็นสาเหตุของภูมิแพ้มีผลกระทบต่อสุขภาพอย่างมีนัยสำคัญ การเรียนรู้และเข้าใจเกี่ยวกับสารเหล่านี้จึงมีความสำคัญต่อการดูแลสุขภาพของเราและคนที่เรารัก
VOCs คืออะไร?
หากคุณเคยได้กลิ่นสีทาบ้านใหม่ กลิ่นน้ำยาทำความสะอาด กลิ่นเฟอร์นิเจอร์ไม้อัดที่เพิ่งซื้อมา กลิ่นสเปรย์ฉีดผม กลิ่นน้ำยาทาเล็บ กลิ่นจากเครื่องสำอาง หรือแม้แต่กลิ่นจากเบาะหนังในรถยนต์ใหม่นั่นหมายความว่าคุณกำลังได้รับสาร VOCs อยู่ แล้ว VOCs คืออะไรกันแน่? และทำไมเราควรให้ความสำคัญกับมันมากขนาดนี้
ความหมายของ Volatile Organic Compounds
Volatile Organic Compounds หรือที่รู้จักกันในชื่อย่อว่า VOCs คือสารประกอบอินทรีย์ที่สามารถระเหยกลายเป็นไอได้ง่ายที่อุณหภูมิห้องและความดันปกติ คำว่า “volatile” แปลว่าระเหยง่าย ส่วน “organic compounds” หมายถึงสารประกอบที่มีคาร์บอนเป็นองค์ประกอบหลัก ตามนิยามขององค์การพิทักษ์สิ่งแวดล้อมแห่งสหรัฐอเมริกา (US EPA) VOCs คือสารอินทรีย์ที่มีจุดเดือดต่ำและความดันไอสูง ทำให้โมเลกุลสามารถหลุดออกจากของเหลวหรือของแข็งและกระจายเข้าสู่อากาศได้อย่างรวดเร็ว
VOCs มาจากไหน? แหล่งกำเนิดหลักในชีวิตประจำวัน
VOCs สามารถพบได้ทั่วไปในบ้านและสำนักงาน แหล่งกำเนิดหลักมาจากผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น สีทาบ้าน วัสดุก่อสร้าง เฟอร์นิเจอร์ พรม กาว น้ำยาทำความสะอาด สเปรย์ฉีดผม น้ำหอม ยาฆ่าแมลง และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด เครื่องถ่ายเอกสารและเครื่องพิมพ์ก็เป็นแหล่งปล่อย VOCs ที่สำคัญในสำนักงาน อีกทั้งกิจกรรมบางอย่าง เช่น การสูบบุหรี่ การประกอบอาหาร การติดเครื่องยนต์ในที่ปิด ก็เป็นแหล่งกำเนิด VOCs ได้เช่นกัน
ตัวอย่างของสาร VOCs ที่พบได้บ่อย
มีสาร VOCs มากกว่า 400 ชนิดที่ได้รับการระบุว่าพบได้ในอากาศภายในอาคาร แต่มีเพียงไม่กี่ชนิดที่พบบ่อยและมีผลกระทบต่อสุขภาพอย่างมีนัยสำคัญ มาทำความรู้จักกับสาร VOCs ที่พบบ่อยในชีวิตประจำวัน
ฟอร์มาลดีไฮด์ (Formaldehyde)
ฟอร์มาลดีไฮด์เป็นหนึ่งใน VOCs ที่พบมากที่สุดในอาคาร มันถูกใช้ในการผลิตเฟอร์นิเจอร์ไม้อัด แผ่นไม้ MDF พรม และวัสดุตกแต่งบ้าน ตามข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก (WHO) การสัมผัสฟอร์มาลดีไฮด์เป็นเวลานานอาจนำไปสู่ปัญหาระบบทางเดินหายใจและเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งโพรงจมูกและไซนัส
เบนซีน (Benzene)
เบนซีนเป็นสาร VOCs ที่พบได้ในควันบุหรี่ น้ำมันเชื้อเพลิง และผลิตภัณฑ์บางประเภท เช่น กาว สี และสารเคลือบผิว ตามการจัดอันดับขององค์การวิจัยมะเร็งนานาชาติ (IARC) เบนซีนจัดเป็นสารก่อมะเร็งกลุ่ม 1 ซึ่งหมายความว่ามีหลักฐานยืนยันว่าสามารถก่อให้เกิดมะเร็งในมนุษย์ได้
โทลูอีน (Toluene)
โทลูอีนพบได้ในสี ทินเนอร์ น้ำยาลบคำผิด และกาว การสัมผัสโทลูอีนในระดับสูงอาจส่งผลต่อระบบประสาทและสมอง ทำให้เกิดอาการปวดศีรษะ เวียนศีรษะ และในกรณีรุนแรงอาจทำให้หมดสติได้ ตามข้อมูลของสถาบันความปลอดภัยในการทำงาน กระทรวงแรงงาน
อะซิโตน (Acetone)
อะซิโตนเป็นสาร VOCs ที่พบในน้ำยาล้างเล็บ สีทาบ้าน และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดหลายชนิด แม้จะไม่ถูกจัดว่าเป็นสารก่อมะเร็ง แต่การสัมผัสอะซิโตนในปริมาณมากอาจทำให้เกิดการระคายเคืองต่อตา จมูก และลำคอ รวมถึงอาการปวดศีรษะและเวียนศีรษะ

VOCs มีผลกระทบต่อสุขภาพอย่างไร?
การสัมผัสสาร VOCs สามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ความรุนแรงของผลกระทบขึ้นอยู่กับชนิดของสาร ความเข้มข้น ระยะเวลาในการสัมผัส และสุขภาพโดยรวมของบุคคลนั้น
อาการเฉียบพลันเมื่อได้รับ VOCs ปริมาณสูง
เมื่อได้รับสาร VOCs ในปริมาณสูงในระยะเวลาสั้นๆ อาจเกิดอาการเฉียบพลัน เช่น ระคายเคืองตา จมูก และลำคอ ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน หายใจลำบาก และอาการแพ้ต่างๆ ตามข้อมูลของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข อาการเหล่านี้มักหายไปเมื่อออกจากบริเวณที่มีสาร VOCs สูง
ผลระยะยาวจากการสัมผัส VOCs ต่อเนื่อง
การสัมผัสสาร VOCs ในระดับต่ำแต่ต่อเนื่องเป็นเวลานานอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพที่รุนแรง เช่น โรคตับ โรคไต ความผิดปกติของระบบประสาทส่วนกลาง และมะเร็งบางชนิด โดยเฉพาะมะเร็งในระบบทางเดินหายใจและระบบเลือด ตามการศึกษาขององค์การวิจัยมะเร็งนานาชาติ (IARC) สาร VOCs หลายชนิด เช่น เบนซีน ฟอร์มาลดีไฮด์ และไตรคลอโรเอทิลีน มีความเชื่อมโยงกับการเกิดมะเร็งในมนุษย์
กลุ่มเสี่ยงที่ควรระวังเป็นพิเศษ
บางกลุ่มคนมีความเสี่ยงสูงต่อผลกระทบจากสาร VOCs ได้แก่ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ สตรีมีครรภ์ ผู้ที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ เช่น โรคหอบหืด หรือโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) และผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง ตามข้อมูลของสมาคมอุรเวชช์แห่งประเทศไทย กลุ่มเสี่ยงเหล่านี้ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสสาร VOCs โดยเด็ดขาดหรือให้น้อยที่สุด

VOCs เกี่ยวข้องกับคุณภาพอากาศในบ้านอย่างไร
คุณภาพอากาศภายในบ้านและอาคารมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อสุขภาพ เนื่องจากเราใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในอาคาร สาร VOCs เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อคุณภาพอากาศภายในอาคาร
การระบายอากาศที่ไม่ดีส่งผลให้ VOCs สะสม
อาคารสมัยใหม่มักถูกออกแบบให้ปิดสนิทเพื่อประหยัดพลังงาน แต่การระบายอากาศที่ไม่เพียงพอทำให้สาร VOCs สะสมในอากาศมากขึ้น ตามข้อมูลของ US EPA ความเข้มข้นของ VOCs ในอากาศภายในอาคารอาจสูงกว่าภายนอกอาคารถึง 2-5 เท่า และในบางกรณีอาจสูงถึง 10 เท่า โดยเฉพาะในอาคารที่เพิ่งก่อสร้างหรือตกแต่งใหม่
วัสดุก่อสร้างและเฟอร์นิเจอร์คือแหล่ง VOCs ที่คุณคาดไม่ถึง
วัสดุก่อสร้างและเฟอร์นิเจอร์สมัยใหม่หลายชนิดมีสาร VOCs เป็นส่วนประกอบ โดยเฉพาะไม้อัด แผ่นไม้ MDF พรม วัสดุปูพื้น สีทาผนัง และกาวที่ใช้ในการติดตั้ง สาร VOCs จากแหล่งเหล่านี้จะค่อยๆ ปล่อยออกมาสู่อากาศเป็นเวลานาน บางครั้งอาจนานถึงหลายปี ตามข้อมูลของสถาบันอาคารเขียวไทย การเลือกใช้วัสดุที่มีการปล่อย VOCs ต่ำจึงเป็นหนึ่งในมาตรการสำคัญในการปรับปรุงคุณภาพอากาศภายในอาคาร
วิธีลดและป้องกัน VOCs ในชีวิตประจำวัน
มีหลายวิธีที่เราสามารถลดการสัมผัสสาร VOCs ในชีวิตประจำวันได้ เริ่มตั้งแต่การเลือกผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในบ้าน การเพิ่มการระบายอากาศ และการใช้เทคโนโลยีในการกำจัดสาร VOCs
เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสาร VOCs ต่ำหรือไม่มีเลย เช่น สีน้ำแทนสีน้ำมัน ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่เป็นธรรมชาติ และเฟอร์นิเจอร์ที่ได้รับการรับรองว่ามีการปล่อย VOCs ต่ำ หมั่นเปิดหน้าต่างเพื่อระบายอากาศ โดยเฉพาะหลังการทาสี ติดตั้งเฟอร์นิเจอร์ใหม่ หรือใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด
การใช้เครื่องฆ่าเชื้อโรคในอากาศที่มีประสิทธิภาพในการกำจัดสาร VOCs เช่น เครื่อง Wellis Air ที่ใช้เทคโนโลยีประจุไฮดรอกซิล (Hydroxyl Radical) ซึ่งสามารถทำลายสาร VOCs รวมถึงเชื้อโรคและสารก่อภูมิแพ้ในอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประจุไฮดรอกซิลสามารถสลายสาร VOCs ทำให้อากาศในบ้านปลอดภัยสำหรับทุกคนในครอบครัว
สรุปบทความ
VOCs หรือ Volatile Organic Compounds เป็นสารอินทรีย์ที่ระเหยกลายเป็นไอได้ง่ายที่อุณหภูมิห้อง พบได้ทั่วไปในผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น สีทาบ้าน เฟอร์นิเจอร์ น้ำยาทำความสะอาด และวัสดุก่อสร้าง การสัมผัสสาร VOCs อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ตั้งแต่อาการระคายเคืองเล็กน้อยไปจนถึงปัญหาสุขภาพที่รุนแรง เช่น มะเร็ง
การเข้าใจถึงแหล่งที่มาและอันตรายของสาร VOCs จะช่วยให้เราสามารถป้องกันและลดการสัมผัสได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การเพิ่มการระบายอากาศ และการใช้เทคโนโลยีในการกำจัดสาร VOCs เช่น เครื่องกำจัดเชื้อโรคและสารพิษในอากาศและบนพื้นผิวต่าง ๆ, เครื่องฟอกอากาศฆ่าเชื้อโรค Wellis Air ล้วนเป็นวิธีที่ช่วยปรับปรุงคุณภาพอากาศภายในบ้านและปกป้องสุขภาพของเราและคนที่เรารักสามารถเปิดได้ตลอด 24 ชั่วโมงไม่ต้องคอยกังวลว่า “เครื่องฟอกอากาศกินไฟไหม” ป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค ไม่เพียงแค่สาร VOCs แต่ยังรวมไปถึง COVID-19, RSV, Rotavirus, SARS, MERS, ไข้หวัดใหญ่ทุกสายพันธ์, เชื้อที่ทำให้เกิดโรคมือเท้าปากเปื่อย และเชื้อโรคอื่นๆที่อาจส่งผลเสียต่อผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ
ติดต่อรับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญหรือเลือกซื้อ Wellis Air ได้แล้ววันนี้
Line OA: @wellisthailand
Facebook: Wellis Thailand Official
Messenger: Wellis Thailand Official
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ: 081-559-8555