
โรคในเด็กมีอะไรบ้าง อาการที่พบบ่อย และวิธีดูแลให้ปลอดภัย
การดูแลสุขภาพเด็กเป็นเรื่องที่ผู้ปกครองทุกคนใส่ใจ โดยเฉพาะเมื่อพูดถึงโรคในเด็กมีอะไรบ้างที่อาจส่งผล กระทบต่อพัฒนาการและสุขภาพของลูกน้อย เด็กมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคมากกว่าผู้ใหญ่เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันที่ยังไม่สมบูรณ์ และพฤติกรรมที่เอื้อต่อการรับเชื้อโรค นอกจากนี้โรคภูมิแพ้ในเด็กก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อยขึ้น โดยสาเหตุของโรคภูมิแพ้มักเกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมและอากาศที่ไม่สะอาด การรู้จักโรคต่างๆ ที่พบบ่อยในเด็ก รวมถึงวิธีการป้องกันและดูแลที่ถูกต้อง จะช่วยให้ผู้ปกครองสามารถดูแลลูกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โรคในเด็กคืออะไร ทำไมจึงเกิดได้ง่ายกว่าผู้ใหญ่
โรคในเด็กหมายถึงภาวะทางสุขภาพที่เกิดขึ้นกับเด็กและทารก ซึ่งมีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างจากผู้ใหญ่ในหลายประการ การเข้าใจสาเหตุที่ทำให้เด็กเจ็บป่วยได้ง่ายกว่าผู้ใหญ่ จะช่วยให้ผู้ปกครองตระหนักถึงความสำคัญของการป้องกันโรค
ระบบภูมิคุ้มกันของเด็กกับความเสี่ยงในการติดเชื้อ
ระบบภูมิคุ้มกันของเด็กยังไม่เจริญเติบโตอย่างสมบูรณ์ โดยเฉพาะในช่วงแรกเกิดถึงวัย 5 ปี ทำให้เด็กมีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย และเชื้อราต่างๆ ตามรายงานของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข พบว่าเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีมีอัตราการเจ็บป่วยจากโรคติดเชื้อสูงกว่าเด็กโต 3-5 เท่า ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการสัมผัสเชื้อโรคในสิ่งแวดล้อม
พฤติกรรมและสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการเกิดโรคในเด็ก
พฤติกรรมธรรมชาติของเด็กที่ชอบใส่ของเข้าปาก จับสิ่งของต่างๆ และเล่นใกล้ชิดกัน เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญในการแพร่กระจายเชื้อโรค นอกจากนี้ สถานที่ที่เด็กใช้เวลาร่วมกัน เช่น โรงเรียน ศูนย์เด็กเล็ก หรือสวนสาธารณะ มักเป็นแหล่งแพร่กระจายเชื้อโรคที่สำคัญ การมีระบบการฆ่าเชื้อที่มีประสิทธิภาพในสถานที่เหล่านี้จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง

โรคที่พบบ่อยในเด็กแบ่งตามระบบร่างกาย
การจำแนกโรคตามระบบร่างกายจะช่วยให้ผู้ปกครองเข้าใจและสังเกตอาการได้ง่ายขึ้น โดยโรคในเด็กที่พบบ่อยสามารถแบ่งออกเป็นหลายกลุ่มตามระบบร่างกายที่ได้รับผลกระทบ
โรคระบบทางเดินหายใจ
โรคระบบทางเดินหายใจเป็นกลุ่มโรคที่พบบ่อยที่สุดในเด็ก โดยเฉพาะไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่ที่เกิดจากไวรัสหลายสายพันธุ์ โดย RSV (Respiratory Syncytial Virus) เป็นอีกหนึ่งเชื้อไวรัสที่อันตรายสำหรับเด็กเล็ก โดยเฉพาะทารกอายุต่ำกว่า 1 ปี ซึ่งอาจทำให้เกิดหลอดลมอักเสบรุนแรงได้ หลอดลมอักเสบจากเชื้อไวรัสอื่นๆ ก็เป็นอีกปัญหาที่พบบ่อย โดยมักเกิดขึ้นในช่วงฤดูหนาวหรือเปลี่ยนฤดูกาล
โรคระบบทางเดินอาหาร
ลำไส้อักเสบเป็นปัญหาที่พบบ่อยในเด็ก มักเกิดจากการติดเชื้อไวรัส Rotavirus ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการท้องเสียในเด็กทั่วโลก อาหารเป็นพิษจากแบคทีเรียต่างๆ ก็เป็นอีกปัญหาที่พบบ่อย ส่วนท้องเสียจากเชื้อไวรัสอื่นๆ มักเกิดขึ้นร่วมกับไข้และอาเจียน อาการเหล่านี้หากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม อาจทำให้เด็กขาดน้ำและเสียเกลือแร่ได้
โรคผิวหนังและภูมิแพ้
ผื่นแพ้สัมผัสจากสารต่างๆ ในสิ่งแวดล้อม เช่น สบู่ ผงซักฟอก หรือพืชบางชนิด เป็นปัญหาที่พบบ่อยในเด็ก ผื่นลมพิษอาจเกิดจากอาหาร ยา หรือสิ่งแวดล้อมต่างๆ ส่วนภูมิแพ้ผิวหนังที่เรื้อรัง เช่น กลากหรือผิวหนังอักเสบ มักส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของเด็กและครอบครัว การรักษาต้องใช้ความอดทนและการดูแลอย่างต่อเนื่อง
โรคจากการติดเชื้อเฉพาะกิจ
โรคมือ เท้า ปาก เป็นโรคที่เกิดจากไวรัสกลุ่ม Enterovirus และ Coxsackievirus ซึ่งแพร่กระจายได้ง่ายในเด็กเล็ก โดยเฉพาะในโรงเรียนหรือศูนย์เด็กเล็ก อีสุกอีใสจากไวรัส Varicella-zoster เป็นโรคที่แพร่กระจายทางอากาศและมีความรุนแรงได้ หัดเยอรมันจากไวรัส Rubella แม้จะมีการฉีดวัคซีนป้องกัน แต่ยังคงเป็นความกังวลของผู้ปกครอง โรคเหล่านี้ส่วนใหญ่แพร่กระจายผ่านทางอากาศหรือการสัมผัสโดยตรง
สัญญาณเตือนเมื่อควรพบแพทย์ทันที
การรู้จักสังเกตอาการที่เป็นอันตรายในเด็กเป็นทักษะสำคัญที่ผู้ปกครองต้องมี เพื่อให้สามารถตัดสินใจได้อย่างถูกต้องและรวดเร็วเมื่อเด็กเจ็บป่วย
มีไข้สูงนานเกิน 2 วัน
ไข้สูงเกิน 38.5 องศาเซลเซียสที่ต่อเนื่องนานเกิน 2 วัน โดยเฉพาะในเด็กอายุต่ำกว่า 3 เดือน ต้องได้รับการประเมินจากแพทย์ทันที เนื่องจากอาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อรุนแรง
หายใจเร็ว หอบ หรือซึมผิดปกติ
อาการหายใจลำบาก หายใจเร็วผิดปกติ หรือเด็กซึมเศร้าไม่ตื่นตัวเหมือนปกติ เป็นสัญญาณเตือนที่ต้องรีบพบแพทย์ โดยเฉพาะในเด็กที่มีความเสี่ยงต่อโรคระบบทางเดินหายใจ
มีอาการขาดน้ำหรือเบื่ออาหารร่วมด้วย
เด็กที่ปฏิเสธน้ำนม อาเจียนบ่อย ปัสสาวะน้อย หรือมีอาการซึมลง ต้องได้รับการดูแลจากบุคลากรทางการแพทย์เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนจากการขาดน้ำ
แนวทางการดูแลเด็กเมื่อป่วยเบื้องต้นที่บ้าน
การดูแลเด็กป่วยที่บ้านต้องทำอย่างระมัดระวังและถูกต้อง ให้น้ำมาก หาอาหารที่เด็กชอบและย่อยง่าย สังเกตอาการอย่างใกล้ชิด และหลีกเลี่ยงการให้ยาที่ไม่จำเป็น การพักผ่อนเพียงพอและการรักษาสุขอนามัยในบ้านเป็นสิ่งสำคัญ
การดูแลในห้องนอนมีความสำคัญเป็นพิเศษ เนื่องจากเด็กป่วยจะใช้เวลาส่วนใหญ่ในห้องนอน การดูแลคุณภาพอากาศในห้องนอนจึงจำเป็นอย่างยิ่ง การวางเครื่องฟอกอากาศในห้องนอนสามารถช่วยลดเชื้อโรคและสารก่อภูมิแพ้ในอากาศที่อาจทำให้อาการของเด็กรุนแรงขึ้น การมีระบบฆ่าเชื้อที่ทำงานอย่างต่อเนื่องจะช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการฟื้นตัวของเด็ก
วิธีป้องกันโรคในเด็กอย่างได้ผล
การป้องกันเชื้อโรค ที่เป็นสาเหตุของโรคต่างๆในเด็กเริ่มต้นจากการสร้างสิ่งแวดล้อมที่ปลอดภัย การล้างมืออย่างสม่ำเสมอ การฉีดวัคซีนตามกำหนด และการดูแลคุณภาพอากาศในบ้านและสถานที่ที่เด็กใช้ชีวิต
Wellis Air เครื่องฆ่าเชื้อโรค ที่มีเทคโนโลยีการฆ่าเชื้อด้วยประจุ Hydroxyl ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถกำจัดเชื้อไวรัสต่างๆ ที่เป็นสาเหตุของโรคในเด็ก รวมถึง COVID-19, RSV, Rotavirus, SARS, MERS, ไข้หวัดใหญ่ทุกสายพันธ์, เชื้อที่ทำให้เกิดโรคมือเท้าปากเปื่อย และเชื้อโรคอื่นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ระบบนี้ปลอดภัยต่อเด็กและสามารถใช้งานต่อเนื่อง 24 ชั่วโมงได้ ได้รับความเชื่อมั่นในการเป็นเครื่องฟอกอากาศที่ใช้ในโรงพยาบาล
สำหรับผู้ปกครองที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลการทดสอบการกำจัดเชื้อโรคต่างๆ ที่มีผลกระทบต่อเด็ก แอดไลน์ @wellisthailand เพื่อขอดูผลการทดลองจากห้องปฏิบัติการที่มีมาตรฐานสากล
สรุป
โรคในเด็กมีอะไรบ้าง เป็นคำถามที่ผู้ปกครองควรรู้คำตอบเพื่อเตรียมพร้อมในการดูแลลูก การเข้าใจถึงประเภทของโรค สาเหตุ และวิธีการป้องกันจะช่วยลดความเสี่ยงและส่งเสริมสุขภาพที่ดีของเด็ก การสร้างสิ่งแวดล้อมที่ปลอดเชื้อโรครวมกับการดูแลสุขภาพที่เหมาะสม จะช่วยให้เด็กเติบโตอย่างแข็งแรงและมีคุณภาพชีวิตที่ดี